อัยการ โยนกลับให้ตำรวจ ผลสอบข้อเท็จจริง คดีบอส อยู่วิทยา บกพร่องในชั้นตำรวจ จี้รื้อคดีใหม่หมด พล.ต.ท.เพิ่มพูน งานเข้า

บทความ

อัยการ โยนกลับให้ตำรวจ ผลสอบข้อเท็จจริง คดีบอส อยู่วิทยา บกพร่องในชั้นตำรวจ จี้รื้อคดีใหม่หมด พล.ต.ท.เพิ่มพูน งานเข้า

เว็บไซต์สุขภาพ วาไรตี้ สังคม - อัยการ เผยผลสอบข้อเท็จจริง คดีบอส อยู่วิทยา บกพร่องในชั้นตำรวจ จี้ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้แจง 

กระแส red bull boycott  แบนเรดบูล ไม่ซื้อกระทิงแดง รวมทั้ง ต่างประเทศแบนกระทิงแดง  สินค้าในเครือ red bull  ยังคงแรงต่อเนื่อง ขณะที่ในไทย ประชาชนคนไทย จับตา คดีที่ร้ายแรง ลึกลับ ซับซ้อน เมื่อ อำนาจเงิน  อยู่เหนือ อำนาจกระบวนการยุติธรรม

News Update วันอังคารที่ 4 สิงหาคม 2563 - ข่าวล่าสุดวันนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ส.ค. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา

นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา น.ส.เสฏฐา เธียรพิลากุล อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมแถลงข่าวผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะทำงานตรวจสอบการพิจารณาสั่งคดี “นายวรยุทธ อยู่วิทยา”

นายประยุทธ เปิดเผยว่า คณะทำงานพิจารณาข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวน จากนั้นได้พิจารณาความเห็นและคำสั่งของนายเนตร นาคสุข แล้วมีความเห็นว่า นายเนตร นาคสุข ได้มีความเห็นและคำสั่งคดีนี้ ไปตามพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนและสอบสวนเพิ่มเติม

คลิ๊กอ่านข่าว : เปิดหนังสือคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ ที่ตำรวจปั้นพยานขึ้นมาสองคน คือ พลอากาศโทจักรกฤช ถนอมกุลบุตร และ นายจารุชาติ มาดทอง  

ซึ่งปรากฏอยู่ในสำนวน ไม่ได้นำพยานหลักฐานนอกสำนวนหรือที่ไม่ได้ปรากฏในสำนวนการสอบสวนมาสั่งคดี หรือเป็นการใช้ดุลพินิจสั่งคดีไปตามอำเภอใจ

รวมทั้งมีเหตุผลประกอบตามสมควร และภายหลังที่มีคำสั่งไม่ฟ้องแล้ว ได้มีการเสนอสำนวนให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพื่อพิจารณาอันเป็นการตรวจสอบและถ่วงดุลการสั่งคดีของพนักงานอัยการ

ล่าสุด เว็บไซต์ medhubnews.com ข่าวสังคม สุขภาพ ท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook ทวิตเตอร์ @medhub_news รายงานว่า ในส่วนของอัยการ ได้มีความเห็นและคำสั่งคดีนี้ จากพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนและ ที่สอบสวนเพิ่มเติม

นั่นคือ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีความเห็นไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว คณะทำงานเห็นว่าการสั่งคดีของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องแล้ว

แม้คดีนี้จะมีคำสั่งเสร็จเด็ดขาดไม่ฟ้อง นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ในข้อหาขับรถ โดยประมาทเฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตายแล้วก็ตาม

แต่มิได้หมายความว่าจะไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว คณะทำงานตรวจพบว่า คดียังไม่ถึงที่สุด กล่าวคือ เมื่อมีพยานหลักฐานใหม่อันสำคัญแก่คดี ซึ่งน่าจะทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องหานั้นได้ ก็สามารถสอบสวนต่อไปได้

โดยคณะทำงานมีความเห็นว่า คณะทำงานตรวจพบในสำนวนสอบสวนมีการตรวจเลือดของนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาที่ 1 ในวันเกิดเหตุ

 และพบสารประเภท Cocaine (โคเคน) ในเลือด แต่พนักงานสอบสวน ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนผู้ต้องหาที่ 1 ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 Cocaine (โคเคน) ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 58 ประกอบกับมาตรา 91 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุก 6 เดือนถึง 3 ปี (อายุความตามกฎหมาย 10 ปี)

ส่วนยาเสพติดมีการเจาะไปตรวจพร้อมๆ กัน โดยพบสารที่น่าสนใจ 2 ตัว เบนซอยเรกโคนีน ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าไม่ใช่ยาเสพติด แต่เป็นปฏิกิริยาที่จะพบในร่างกายเมื่อร่างกายมีปฏิกิริยาจากโคเคน ซึ่งจะเกิดหลังได้รับโคเคน

ส่วนสารอีกตัว โคคาเอสทาลีน จะพบสารนี้ถ้าเสพโคเคนพร้อมแอลกอฮอล์ หากเป็นโคเคน เป็นยาเสพติดประเภท 2 แต่สาร 2 ตัวนี้ไม่ใช่ยาเสพติด แต่สามารถยืนยันได้ว่ามีการเสพโคเคนหรือไม่ หมอชี้แจงว่า ยืนยัน 100% ไม่ได้ อาจเกิดผลบวกลวง

หากตรวจไม่ถูกต้อง หรือ เสพสารบางประเภท อย่างแอมมอกซี่ ก็สามารถให้ผลเช่นนั้นได้ โดยขณะนั้นมีทันตแพทย์ยืนยันว่าก่อนเจาะเลือดได้ให้แอมมอกซี่ ระหว่างรักษาฟัน ซึ่งทำให้เจ้าของสำนวนจึงไม่ได้ดำเนินคดีเรื่องสารเสพติด โดยพนักงานอัยการไม่เห็นด้วยและเสนอว่า ให้มีการตรวจสอบต่อไป

ขณะที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ระบุว่า การใช้ดุลยพินิจของ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แต่ไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะรื้อฟื้นหรือสืบสวนเพิ่มเติม เพราะคดีผ่านชั้นสืบสวนของตำรวจมาแล้ว

“พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ” ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ลงนามแทน ผบ.ตร. ในการ “ไม่เห็นแย้ง” สรุปเป็นอันคดียุติ

พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ คือใคร  พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ คือ น้องชาย เนวิน เนวิน ชิดชอบ เจ้าของพรรคภูมิใจไทย ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เป็นน้องชาย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ  รมว.คมนาคม อยู่ในรัฐบาลชุดนี้

พล.ต.ท.เพิ่มพูน จบการศึกษา นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง รับราชการตำรวจ ตั้งแต่ปี 2527 ที่สำนักงานเลขานุการ กรมตำรวจ ขณะที่พี่ชาย เนวิน ชิดชอบ เล่นการเมือง ตอนนั้นได้เป็น สจ.บุรีรัมย์

สำหรับช่วง เนวิน ชิดชอบ กำลังเบ่งบารมี มีอำนาจมาก ในยุครัฐบาลสมัคร พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ  เป็นผบก.กองตรวจราชการ 2 จต. (จเรตำรวจ) และยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ  เป็น ผบก.ตม.กทม. (ตรวจคนเข้าเมือง กรุงเทพฯ)

เมื่อ รัฐบาลของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ถูกย้ายจาก ตม.ไปเป็นอำนวยการจเรตำรวจ

จากนั้น ยุค คสช. พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ เป็นจเรตำรวจ ( สบ8 ) ก่อนขยับมารับตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร. ในฤดูกาลโยกย้ายเมื่อปี 2562

พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ จะเกษียณอายุ ปี 2564 แคนดิเดต ตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ที่ว่าง 2 ตำแหน่ง โดยมี พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ,พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย นรต.รุ่น 38 และ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อนร่วมรุ่น นรต.38

เมื่อ อัยการ เผยผลสอบข้อเท็จจริง คดีบอส อยู่วิทยา บกพร่องในชั้นตำรวจ รวมทั้งชุดนายวิชา มหาคุณ ก็ติดใจประเด็นนี้ 

“พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ” ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ลงนามแทน ผบ.ตร. ในการ “ไม่เห็นแย้ง” สรุปเป็นอันยุติคดี น่าจะงานเข้าแล้วล่ะ !

 

04 สิงหาคม 2563

ผู้ชม 2251 ครั้ง

Engine by shopup.com