เทรนด์สุขภาพมาแรง ! สถาบันการศึกษา ทยอยเปิดหลักสูตรแนวใหม่ "แพทย์บูรณาการ สุขภาพ และ ความงาม"
เทรนด์สุขภาพมาแรง ! สถาบันการศึกษา ทยอยเปิดหลักสูตรแนวใหม่ "แพทย์บูรณาการ สุขภาพ และ ความงาม"
ทีมข่าวเว็บไซต์ Medhubnews.com รายงานว่า ความสำเร็จจากงาน “มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 14” ( The 14th National Herbs Expo ) “เสน่ห์ไทย สมุนไพรไทย 4.0” นั้น ทำให้ภาคเอกชนคึกคัก เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้
บางบริษัทเดินหน้าพัฒนาธุรกิจด้านสมุนไพรกันมากขึ้น โดยมีนายกรัฐมนตรีช่วยสนับสนุน และ ผลักดันอีกแรง จึงทำให้ภาคเอกชนอุ่นใจขึ้น
ขณะที่ในภาคการศึกษานั้น จากเดิมเราจะพบว่าโรงเรียนแพทย์ หรือ สถาบันผลิตแพทย์แต่ละแห่ง ไม่ใช่ก่อตั้งขึ้นมาง่ายๆ เพราะต้องเก่งจริง เจ๋งจริง มีอาจารย์ที่สามารถถ่ายทอดวิชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่มีศักยภาพมากพอที่จะถ่ายทอดองค์ความรู้ได้
ซึ่งคนที่สอบติดคณะแพทย์ก็มักจะเป็นผู้เรียนเก่งที่สุดในห้อง บางโรงเรียนถึงกับขึ้นป้ายประกาศว่ามีเด็กของตนสอบติดคณะแพทย์จาก มหาวิทยาลัยต่างๆ
แต่ในเมื่อวันเวลาผ่านไป เรามีแพทย์ทางเลือก แพทย์แผนไทย เทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้ให้เกิดความสมดุล ทำให้มีการพัฒนาการเรียนการสอน และเปิดหลักสูตรให้เข้ากับวิถีชีวิตในยุคดิจิตอลมากขึ้น
เช่น วิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต ( การประกอบอาหารเพื่อสุขภาพ ) , วิทยาศาสตรบัณฑิต ( บูรณาการสุขภาพและความงาม ) ซึ่งมี นายแพทย์บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล แพทย์ชื่อดัง เป็นคณบดีวิทยาลัยการแพทย์บูรณาการ ( CIM )
จากการสอบถามอาจารย์ ได้แนะนำข้อมูลว่า เทรนด์ที่มาแรง คือ สาขา บูรณาการสุขภาพและความงาม เน้นให้นักศึกษามีความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพแบบองคร์วม และด้านความงาม ในช่วงฝึกงานปี 3 และปี 4 จะมีโอกาสได้รับประสบการณ์ที่เหมือนจริงในคลินิคความงาม ศูนย์สุขภาพ ความงาม โรงแรม รีสอร์ท รวมทั้งสปาชั้นนำ
เรียกได้ว่า รองรับนโยบาย Thailand Medical Hub อย่างจริงจัง ซึ่งต่อไปแนวโน้มที่ชาวต่างชาติจะเข้ามาใช้บริการทางการแพทย์จำนวนมหาศาล
นักศึกษาเรียนจบไปแล้ว สามารถทำงานในคลินิกความงาม และชะลอวัย (Medical Aesthetic & Anti-aging Clinic) , Wellness Center เช่น Wellness therapist, Advisor, Supervisor, Manager, Regional manager ในโรงพยาบาล ศูนย์ออกกำลังกาย สปาชั้นนำใน และต่างประเทศ นวัตกรรมและเทคโนโลยีการบริการสุขภาพ วิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ
รวมทั้งนำความรู้ที่ได้รับออกไปเป็นเจ้าของกิจการ Beauty and cosmetic product, กิจการ Health & Wellness หรือกิจการ Aesthetic & Anti-aging Clinic
สุดท้ายแล้ว การที่ได้เห็น สถาบันมีการบรรจุหลักสูตรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์มากขึ้น ถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ทั้งนี้ อยากให้ผู้เปิดหลักสูตรเกี่ยวกับแพทย์ควบคุมเรื่องคุณภาพให้มากที่สุด
โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานกลางขึ้นมารับรองคุณภาพด้วย เพราะระบบสุขภาพของไทยจะได้มีมาตรฐาน เตรียมรับนโยบาย Thailand Medical Hub ในอนาคต
เครดิตภาพ จาก cim.dpu
06 มกราคม 2562
ผู้ชม 4984 ครั้ง