“เพื่อนคนป่วยใจ” พบเคส "ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า" กิน “กาแฟลดน้ำหนัก” จนมีอาการทางจิต
“เพื่อนคนป่วยใจ” พบเคส "ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า" กิน “กาแฟลดน้ำหนัก” จนมีอาการทางจิต
ทีมข่าวเว็บไซต์ Medhubnews.com รายงานว่า เพจเฟสบุ๊ค “เพื่อนคนป่วยใจ” ได้โพสต์ข้อความน่าสนใจเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าว่า
“จากเด็กหนุ่มที่มีชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไปแต่เพราะต้องการลดน้ำหนักจึงกินกาแฟลดความอ้วนติดต่อกันเป็นเวลานาน ส่งผลให้มี อาการเหม่อลอย จิตตก จากคนที่ใส่ใจในการดูแลภาพลักษณ์ตนเอง กลายเป็นคนปลีกตัวจากสังคม
ชายหนุ่มออฟฟิศคนหนึ่ง เล่าว่าเริ่มกินกาแฟลดความอ้วนปี 2553 ทุกยี่ห้อที่บอกว่าดี ( บางยี่ห้อก็รู้ว่าใส่สาร “ไซบูทรามีน” แต่เพราะคิดว่ามันได้ผล ซึ่งก็ได้ผลจริง แต่ผลกระทบเยอะมากกว่า )
ตอนแรกกินแล้วมีแรงทำงาน มีสมาธิใจจดจ่อในงาน ถ้าไม่หิว ไม่กินข้าวเลย แต่คอแห้ง ขับถ่ายยาก
จากนั้น ปี 2554-2555 เริ่มรู้สึกวูบๆ และเหนื่อยง่ายก็หยุดกิน มีอาการเหม่อ แต่ยังเป็นไม่มากไม่รู้ว่าเป็นอะไร ไปหาหมอตามสิทธิประกันสังคม เขาส่งไปพบแพทย์ตรวจโรคนี้โน้นไปเรื่อยๆ
ประมาณว่าเป็น ไทรอยด์ เบาหวาน กินยาอยู่นานพอสมควร อาการไม่ดีขึ้น มีอาการคือตกใจง่าย ขวัญอ่อน เป็นหลายอาทิตย์ก็ไม่หาย เหมือนจิตตก วันหนึ่งไปทำงาน สงสัยทำไมหิวง่าย หิวแล้วมือสั่น ปีนั้นโรคซึมเศร้ายังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย เราค้นข้อมูลอาการที่ เป็นจากกูเกิลเอง พบว่าเหมือนกับ โรคซึมเศร้า
ดังนั้นจึงนั่งแท็กซี่ไปหาหมอที่ รพ.ศรีธัญญา หมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้และจ่ายยามาพอกินแล้วอาการหายหมด นอนหลับสบาย ไม่เครียด ไม่กังวล ดีใจมาก รู้สึกร่าเริงกว่าเดิม
จากที่เคยขี้เกียจ กลายเป็นทำงาน มีประสิทธิภาพ พออาการดีขึ้น ปี 2555 ลดยาและปรับยาเอง ไม่ไปพบหมอตามนัด กลายเป็นว่าต้องกลับมาตั้งต้นใหม่เรื่อยๆ
วันหนึ่งขณะไปพบหมอที่ รพ.ศรีธัญญา มีความคิดแว่บขึ้นมาว่า ทำไมเราต้องวนเวียนมาที่นี่ เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ทำไมไม่มีชีวิตเหมือนวัยรุ่นคนอื่น เลยเข้ามาศึกษาโรคนี้จริงจัง
โดยอาชีพทำให้รู้จักจิตแพทย์เยอะ ก็เอาตำรามาศึกษา อยากรักษาตัวให้หายขาด ตั้งเป้าไว้ว่าปีนี้น่าจะลดปริมาณยาลงได้และปรับจนไม่ต้องกินยา ซึ่งมีความเป็นไปได้ ช่วงที่เรากินยาแล้วหาย อาการดี ก็ไปช่วยเหลือคนอื่นคือ มีกลุ่มปิดของคนเป็นโรคซึมเศร้ามาพูดคุยกันในเฟสบุ๊ค บางคนไม่กล้าไปหาหมอหรือรักษาเพราะอาย กลัว เพื่อนเห็นถุงยาว่าเป็นของโรงพยาบาลไหน บ้างก็มาปรึกษาด้วย อาการแย่แล้ว
ผมคิดว่าคนไม่เป็นโรคนี้ไม่ควรให้คำปรึกษาใคร บางคนให้คำปรึกษา แบบผิดๆ เช่น ให้ไปเดินเล่น เปิดสมอง ปลูกต้นไม้ มันไม่ใช่แนวทาง การรักษาที่ถูกต้องๆ คือ ต้องไปหาหมอกินยาก่อน
แล้วค่อยมาผ่อน คลาย เราก็แนะนำไปบ้างว่าไปพบหมอที่ไหนได้บ้าง ปัจจุบันไปหาหมออยู่เป็นประจำ คุณหมอ บอกว่าให้มาตามนัด อย่าปรับยาเอง โรคนี้อยู่ที่วินัยในการกินยา
เครดิตภาพจาก GMM, SOS skate ซึมซ่าส์ ( อาการเหมือนมากๆ ) , เพจเพื่อนคนป่วยใจ
26 ธันวาคม 2561
ผู้ชม 3378 ครั้ง