"เปิดหอจดหมายเหตุสาธารณสุขแห่งชาติ" สัญลักษณ์ "100 ปี การสาธารณสุขไทย"
"เปิดหอจดหมายเหตุสาธารณสุขแห่งชาติ" สัญลักษณ์ "100 ปี การสาธารณสุขไทย"
MED HUB NEWS - หน่วยงานในประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ในไทย หนึ่งในนั้น คือ “ระบบสาธารณสุขไทย” ซึ่งหากนับถึงปีนี้ 2561 ครบรอบ 100 ปีการสาธารณสุขไทยแล้ว
"100ปี การสาธารณสุขไทย" ในวาระครบ 100 ปีครั้งนี้ นับจากการริเริ่มงานสาธารณสุข “กรมสาธารณสุข” เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2461 บัดนี้ เข้าสู่ศตวรรษที่ 2 ของการพัฒนาสาธารณสุข
สำหรับ "หอจดหมายเหตุสาธารณสุขแห่งชาติ" ชั้น 1 อาคารคลังพัสดุ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ถือเป็น "สัญลักษณ์ 100 ปี การสาธารณสุขไทย"
สำหรับ 100ปี การสาธารณสุขไทย หรือ หนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา การสาธารณสุขไทยมีบทเรียนความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของผู้คนและหน่วยงานต่าง ๆ
ทุ่มเทพัฒนางานด้านการแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศ รวมทั้งมีบทเรียนของปัญหา อุปสรรค และความล้มเหลวที่มีคุณค่าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
พัฒนาการของการสาธารณสุขไทยจึงเป็นเสมือนหนังสือเล่มใหญ่ของ 100ปี การสาธารณสุขไทย ที่ควรค่าแก่การศึกษาค้นคว้า
การจัดเก็บข้อมูลประวัติศาสตร์ 100ปี การสาธารณสุขไทย มาเป็นบทเรียนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการเรียนรู้อดีต ทำให้เข้าใจปัจจุบันและกำหนดอนาคตได้ดียิ่งขึ้น
อาคาร ที่เปรียบดั่งสัญลักษณ์ 100ปี การสาธารณสุขไทย
"หอจดหมายเหตุสาธารณสุขแห่งชาติ" ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญในโอกาสการเฉลิมฉลอง 100 ปีการสาธารณสุขไทย โดยเป็นงานอนุรักษ์เอกสารจดหมายเหตุด้านการแพทย์และการสาธารณสุขไว้เป็นมรดกของชาติ
การส่งเสริมและพัฒนางานจดหมายเหตุของกระทรวงสาธารณสุข ให้มีคุณภาพเป็นศูนย์ข้อมูลสารสนเทศที่เชื่อมโยงฐานข้อมูลเอกสารจดหมายเหตุในหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ
สร้างความเข้าใจและส่งเสริมการให้คุณค่าในการเก็บรวบรวม ดูแลรักษา และเรียนรู้จากอดีต เป็นพี่เลี้ยงให้กับหน่วยงานต่าง ๆ
ทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุขให้เกิดการเรียนรู้จากอดีตอย่างเป็นระบบ เชื่อมโยงงานด้านการแพทย์และการสาธารณสุขในปัจจุบันและอนาคต
ผู้สื่อข่าวกองบรรณาธิการ www.medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook รายงานว่า การจัดงาน “100 ปี การสาธารณสุขไทย”
เป็นงานอนุรักษ์เอกสารจดหมายเหตุด้านการแพทย์และการสาธารณสุขไว้เป็นมรดกของชาติ
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้ตั้ง “กรมสาธารณสุข” ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2461
มุ่งขยายบริการสุขภาพให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ จนประสบความสำเร็จ
ทั้งด้านการควบคุมป้องกันโรค สามารถกวาดล้างและควบคุมโรคติดต่อหลายชนิดจนไม่เป็นปัญหาสาธารณสุข อาทิ ไข้ทรพิษ กาฬโรค โปลิโอ โรคเรื้อน คุดทะราด เป็นต้น
ขณะที่การส่งเสริมสุขภาพ มีการริเริ่มกิจการด้านโภชนาการ การวางแผนครอบครัว การให้วัคซีนป้องกันโรคและอนามัยแม่และเด็ก
และด้านการรักษาพยาบาลมีสถานบริการสาธารณสุขครอบคลุม ตั้งแต่ระดับตำบล และระบบส่งต่อเชื่อมโยงจนถึงระดับโรงพยาบาลศูนย์เชี่ยวชาญ
การพัฒนาที่ผ่านมาอย่างยาวนานทำให้ระบบการสาธารณสุขที่ดีขึ้น อายุขัยเฉลี่ยของคนไทยยืนยาวขึ้น ประชาชนไทยทุกคนมีหลักประกันสุขภาพ สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่มี อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
ปี 2432 ระบบสาธารณสุขไทยมีแพทย์ประจำเมืองขึ้นในบางแห่ง มีการนำยาตำราหลวงออกจำหน่วยในราคาถูกและตั้งกองแพทย์ไปป้องกันโรคระบาด ขณะที่ กองโอสถศาลารัฐบาล กองทำพันธุ์หนองฝี กองแพทย์ป้องกันโรคและแพทย์ประจำเมือง สังกัดกระทรวงธรรมการ
กระทั่งต่อมา มีการศึกษาดูงานต่างประเทศ จึงพัฒนากรมพยาบาล เป็น กรมประชาภิบาล มีการวางระบบป้องกันโรคสำคัญ 4 อย่าง คือ โรคฝีดาษ อหิวาตกโรค กาฬโรค และไข้ทรพิษ
ในวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2461 ได้ประกาศตั้งกรมสาธารณสุข โดยเปลี่ยน จากกรมประชาภิบาล มีกรมหมื่นชัยนาทนเรนทร เป็นอธิบดีกรมสาธารณสุข
ต่อมา พ.ศ. 2485 จึงได้มีการสถาปนากรมสาธารณสุขขึ้นเป็นกระทรวงสาธารณสุข มีการรวมกิจการแพทย์และสาธารณสุขซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในหลายหน่วยงาน
โดยหอจดหมายเหตุสาธารณสุขแห่งชาติ ที่ตั้งขึ้นนี้จะมีข้อมูลต่างๆ ให้ค้นคว้ามากมาย
ทั้งนี้ ตั้งอยู่ ชั้น 1 เป็นห้องนิทรรศการ ห้องให้บริการจดหมายเหตุ และห้องคลังจดหมายเหตุ มีระบบควบคุมความชื้นและความปลอดภัยตามมาตรฐานของหอจดหมายเหตุสากล
ส่วนชั้น 4 เป็นสำนักงานหากต้องการมอบเอกสารด้านสาธารณสุขให้กับหอจดหมายเหตุฯเก็บรักษาหรือสืบค้นเอกสารสำคัญ
สำหรับ ประชาชน และ ผู้สนใจ สามารถติดต่อได้ที่หอจดหมายเหตุสาธารณสุขแห่งชาติ ชั้น 1 ซ.สาธารณสุข 6 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี
เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com 100ปี การสาธารณสุขไทย
เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ
Thailand Health and Wellness News
ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com
ได้จาก Facebook : sasook ของเรา
ภาพจากเพจ “100 ปีการสาธารณสุขไทย”
19 ธันวาคม 2561
ผู้ชม 9333 ครั้ง