ธอส.ช่วยได้ เปิดแอป ธอส ไว้คืนนี้เลย โหลด GHB ALL ช่วยค่างวดบ้าน ธอส 6 เดือน เผยผลงานปี 2563 แข็งแกร่ง สมฉายา ธนาคารบ้าน ของคนไทย

บทความ

ธอส.ช่วยได้ เปิดแอป ธอส ไว้คืนนี้เลย โหลด GHB ALL ช่วยค่างวดบ้าน ธอส 6 เดือน เผยผลงานปี 2563 แข็งแกร่ง สมฉายา ธนาคารบ้าน ของคนไทย

 ธอส.ช่วยได้ เปิดแอป ธอส ไว้คืนนี้เลย โหลด GHB ALL ช่วยค่างวดบ้าน ธอส 6 เดือน เผยผลงานปี 2563 แข็งแกร่ง สมฉายา ธนาคารบ้าน ของคนไทย

นายฉัตรชัย ศิริไล

กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)

Author : Medhubnews Online

Photographer : ธอส.

เผยแพร่ครั้งแรก วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม 2564, 16 :16 น.

ปรับปรุงล่าสุด..

News Update วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม 2564 - ข่าวล่าสุด : ธอส. โชว์ผลการดำเนินงานปี 63 ทำให้คนไทยมีบ้าน ปล่อยสินเชื่อใหม่ 2.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.57% สูงกว่าเป้าหมายถึง 15,791 ล้านบาท

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เผยผลการดำเนินงานปี 2563 ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งและสร้างโอกาสทำให้คนไทยมีบ้านได้อย่างต่อเนื่อง

ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 225,151 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 67 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งธนาคาร

เพิ่มขึ้นจากปี 2562 จำนวน 9,850 ล้านบาท คิดเป็น 4.57% และสูงกว่าเป้าหมายถึง 15,791 ล้านบาท           

สินเชื่อคงค้าง 1,320,308 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 1,399,138 ล้านบาท เงินฝากรวม 1,162,687 ล้านบาท

และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 47,572 ล้านบาท คิดเป็น 3.60% ของยอดสินเชื่อรวม กำไรสุทธิ 10,494 ล้านบาท ลดลง 21.41%

ขณะที่ปี 2564 เดินหน้าด้วยแนวคิดหลัก “Be Simple, Make it Simple” หรือการทำให้คนไทยเข้าถึงการมีบ้านได้ง่ายๆ กับ ธอส.

ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้น 3% ภายใต้ยุทธศาสตร์ มุ่งยกระดับบริการธนาคารสู่ Digital Service Bank

เว็บไซต์ medhubnews.com ข่าวสังคม สุขภาพ ท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook ทวิตเตอร์ @medhub_news รายงานว่า  นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)

เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน  ในปี 2563 เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2562 ว่า

แม้ในปี 2563 จะเกิดปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งมีผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย

แต่ ธอส. ยังคงสามารถสร้างโอกาสให้คนไทยมีบ้านตามพันธกิจได้อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากจำนวนเงินสินเชื่อปล่อยใหม่ที่ทำได้สูงสุดในรอบ 67 ปี

นับตั้งแต่ก่อตั้งธนาคารที่ 225,151 ล้านบาท 140,386 บัญชี เพิ่มขึ้น 4.57% สูงกว่าเป้าหมายถึง 15,791 ล้านบาท

และแบ่งเป็นสินเชื่อปล่อยใหม่สำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท จำนวน 88,007 ราย

ทำให้มียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,320,308 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.18% มีสินทรัพย์รวม 1,399,138 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.41% เงินฝากรวม 1,162,687 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%

และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 47,572 ล้านบาท คิดเป็น 3.60% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลงจากปี 2562 ที่มี NPL อยู่ที่ 4.09%

ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารที่ได้รับกระทบจาก COVID-19 ตามนโยบายรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2563

ทำให้การเกิด NPL อยู่ในอัตราที่ลดต่ำลง ซึ่งในปี 2563 ธอส. ช่วยเหลือลูกค้าผ่าน 10 มาตรการ มีจำนวนสูงสุด 687,489 บัญชี เงินต้นคงเหลือ   576,139 ล้านบาท

ขณะเดียวกันธนาคารยังได้ทยอยตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่ม เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับผลกระทบจาก COVID-19 ในอนาคต และเพื่อรองรับมาตรฐาน TFRS 9 เป็นจำนวน 96,456 ล้านบาท

เพิ่มขึ้น 11.18% หรือคิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 202.76% สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธนาคารและความพร้อมในการรองรับผลกระทบจาก COVID-19 ในอนาคต

อย่างไรก็ตามในปี 2563 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 10,494 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 2,858 ล้านบาท หรือ 21.41%

เนื่องจากธนาคารลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลงเพื่อช่วยเหลือลูกค้า ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio)

ยังอยู่ที่ระดับแข็งแกร่งมากที่ 15.30% (ณ พฤศจิกายน 2563) สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

แอป GHB ALL, แอป ธอส, แอปพลิเคชัน GHB ALL

“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารยังคงปล่อยสินเชื่อได้สูงกว่าเป้าหมายแม้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปีที่ผ่านมา

คือ ธอส. นำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสลากออมทรัพย์ มาออกผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าตลาดและตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละอาชีพ

ทั้งผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Social Solution สำหรับผู้มีรายได้น้อย อาทิ มาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของ ธอส. ยอดอนุมัติและทำนิติกรรมสูงสุดถึง 28,540 ล้านบาท โครงการบ้าน ธอส. เราไม่ทิ้งกัน 28,900 ล้านบาท

ขณะที่สินเชื่อในกลุ่ม Business Solution สำหรับผู้มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป ผลิตภัณฑ์ที่มียอดอนุมัติและทำนิติกรรมสูงสุดคือ สินเชื่อ D Plus ไตรมาส 3-4 จำนวน 21,970 ล้านบาท

รวมถึงแรงส่งจากมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท และการจัดทำโปรโมชั่นกระตุ้นการขายของผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์” นายฉัตรชัย กล่าว

สำหรับปี 2564 ธอส. ยังคงเดินหน้าด้วยแนวคิดหลัก “Be Simple, Make it Simple”

หรือการทำให้คนไทยเข้าถึงการมีบ้านได้ง่าย ๆ กับ ธอส. สอดคล้องกับพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน”

โดยเตรียมจำหน่ายสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดใหม่ นำมาจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ ตั้งเป้าสินเชื่อปล่อยใหม่จำนวน 215,641 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3%

จากเป้าหมายในปี 2563 สินเชื่อคงค้างที่ 1,374,116 ล้านบาท ภายใต้ยุทธศาสตร์สำคัญที่ดำเนินการต่อเนื่องจากปี 2563 คือ การยกระดับบริการธนาคารสู่ Digital Service Bank ในปี 2564

และก้าวไปสู่การเป็น Digital Bank  อย่างเต็มรูปแบบในปี 2566 ตาม Roadmap “บันได 3 ขั้น” ด้วยการนำบริการหลักทั้งสินเชื่อและเงินฝากขึ้น Digital Platform เพื่อให้บริการลูกค้าโดยไม่ต้องเดินทางมาที่สาขา

ตั้งเป้าลดจำนวนธุรกรรมที่เคาน์เตอร์ภายในสาขาให้เหลือ 5% ของจำนวนธุรกรรมทั้งหมด ส่วนจำนวนธุรกรรมผ่านเครื่องอิเล็กทรอนิกส์

อาทิ ตู้ชำระเงินกู้ LRM หรือ QR Non Cash Payment ที่หน้าสาขาเหลือ 15% และเพิ่มจำนวนธุรกรรมผ่าน Application : GHB ALL เป็น 80%

ภายในปี 2565 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ GHB New Normal Services ในเฟสที่ 3 ซึ่งมีกำหนดให้บริการในเดือนมีนาคม 2564

รวมถึงเดินหน้าโครงการ Virtual Branch หน่วยบริการสินเชื่อไร้ที่ทำการโดยลูกค้าไม่ต้องเดินทางมาที่สาขาแต่ยังคงได้รับบริการเสมือนอยู่ที่สาขา

ซึ่งเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2564 มีเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ผ่านโครงการจำนวน 10,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกันธนาคารยังให้ความสำคัญกับการดูแลให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จากปัญหาโควิด-19 อย่างใกล้ชิดผ่าน “โครงการ ธอส. รวมไทย สร้างชาติ ปี 2564”

ด้วย 4 มาตรการ ลดเงินงวดผ่อนชำระ (เงินงวดที่ชำระจะตัดเงินต้นและตัดดอกเบี้ย) นานสูงสุด 6 เดือน โดยเริ่มเปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการระยะแรก ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2564

ล่าสุด ณ วันที่ 28 มกราคม 2564 เวลา    24:00 น. มีลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการแล้วรวมจำนวนกว่า 102,000 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 95,000 ล้านบาท

สำหรับลูกค้าที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือฯ ของ ธอส. ธนาคารจะเปิดให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการที่ 11 ผ่าน Application : GHB ALL ได้

ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 9.00 น. ถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 22.00 น. เพื่อลดเงินงวดผ่อนชำระ(เงินงวดที่ชำระจะตัด เงินต้นและตัดดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 6 เดือน(กุมภาพันธ์-กรกฎาคม 2564)

แท็ก : มาตรการที่ 11 ธอส, เว็บสุขภาพ, ข่าวสาธารณสุข, เว็บไซต์สุขภาพ, ธอส สินเชื่อบ้าน, สินเชื่อบ้าน ธอส. จัดโปรฯ หนัก - กู้ซื้อบ้านช่วงนี้ได้ หมดกังวล, ค่างวดบ้าน ธอส, การจ่ายค่างวดบ้าน ธอส, ค่างวดบ้านธอส, ค่า งวด บ้าน ธ อ ส โครงการ

ธนาคารอาคารสงเคราะห์, โครงการ บ้าน ธ. อ ส เราไม่ทิ้งกัน Pantip, สินเชื่อบ้าน ธอส เราไม่ทิ้งกัน, สินเชื่อบ้าน ธอส 2564, สินเชื่อบ้านปี 2564 - ดอกเบี้ยบ้านปี 2564

แอป GHB ALL, ฉัตรชัย ศิริไล, แอป ธอส, แอปพลิเคชัน GHB ALL

 

24 เมษายน 2564

ผู้ชม 1308 ครั้ง

Engine by shopup.com