"ฟักทอง" เปรียบได้ดั่ง "จักษุโภชนา" ชะลอดวงตาเสื่อม เหมาะกับวิถีชีวิตคนยุคนี้

ทีมข่าวเว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com รายงานว่า  กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาสายตาและต้องการกระตุ้นให้ทุกคนเกิดการตื่นตัวกับ  การรณรงค์ป้องกันและฟื้นฟูการตาบอด และมองเห็นเลือนราง

จากสถิติรายงาน โรคตาของราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ พบว่า โรคทางตาที่พบมากขึ้นในสังคมไทย คือ การติดเชื้อที่กระจกตาจากคอนแทคเลนส์ และโรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (Computer Vision Syndrome) ซึ่งมีแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ผลสำรวจเกี่ยวกับสาเหตุของการตาบอดและสายตาเลือนลางในประเทศไทยพบปัญหา 4 อันดับแรก คือ 1. โรคต้อกระจก (69.7%)   2. โรคทางจอประสาทตา (13.2%) 3. โรคต้อหิน (4%) 4. ความผิดปกติสายตา 

เป็นที่ทราบกันดีว่า วิตามินเอมีหน้าที่ช่วยในการมองเห็น การเจริญเติบโตของกระดูก การแบ่งตัวของเซลล์ การกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค ซ่อมแซมผิวของตาและหลอดลมทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายยากขึ้นกระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือด

ในทำนองเดียวกันประชาชนส่วนใหญ่ก็ จะมองข้ามวิตามินเอที่มีอยู่ในผัก ผลไม้  โดยเฉพาะผักพื้นบ้านของไทยที่หาง่ายมีสรรพคุณบำรุงสายตา

เช่น ผักบุ้ง ซึ่งมีสารอาหารหลายชนิด จุดเด่นของผักบุ้ง คือ มีวิตามินเอสูง การรับประทานผักบุ้งเป็นประจำจะลดอาการปวดดวงตาลดอาการแสบตาที่เกิดจากการใช้ดวงตาหนักๆ ได้เป็นอย่างดี 

ส่วนตำลึงสมุนไพรริมรั้ว คู่ครัวไทยจุดเด่นของตำลึงอยู่ที่มีสรรพคุณในด้านการบำรุงสายตา ช่วยบำรุงสายตาถนอมสายตาให้มีสุขภาพดี ช่วยในการมองเห็นอีกด้วย

ส่วน ฟักทอง นั้นเป็นพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูงชนิดหนึ่ง เนื้อฟักทอง  มีวิตามินเอสูง บำรุงดวงตา และสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพได้ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ประชาชนสามารถซื้อหามาปรุงเป็นอาหารได้เองตามวิถีชีวิต

อยากให้ประชาชนตระหนักถึงสุขภาพตา หลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อดวงตา เช่น  ไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์ หรือ สมาร์ทโฟน เกิน 25-30 นาที ต้องพักสายตาอย่างน้อย 1-5 นาที ควรดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อให้ดวงตามีความชุ่มชื้น และพักผ่อนนอนหลับ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ประสาทตาได้พักการใช้งาน

สำหรับ ฟักทอง ทางสมุนไพรอภัยภูเบศร ระบุว่า เป็น จักษุโภชนา ชะลอดวงตาเสื่อม ผลฟักทองมีสารสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อดวงตา คือ สารลูทีน ( Lutein ) และซีแซนทีน (Zeaxanthin)

ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoids) สารลูทีนจะพบมากบริเวณจอรับภาพของจอประสาทตาและเรตินาหรือจอตา

โดยจะทำหน้าที่กรองแสงที่เป็นอันตรายต่อดวงตา เช่น แสงแดด แสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนซึ่งมีผลทำให้จอประสาทตาเสื่อม นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมของดวงตา ป้องกันโรคต้อกระจก

โรคจอประสาทตาเสื่อม และทำให้การมองเห็นดีขึ้น การบริโภคฟักทองเป็นประจำจึงเป็นการบำรุงรักษาสายตาอย่างดียิ่ง

เมดฮับ นิวส์ medhubnews.com 

เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ 

Thailand Health and Wellness News   

ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com

ได้จาก Facebook : sasook ของเรา