สถิติสูงสุด ไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,767 ราย บริษัทหลายแห่งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด แห่ให้พนักงาน work from home วันนี้คือวันแรก

บทความ

สถิติสูงสุด ไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,767 ราย บริษัทหลายแห่งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด แห่ให้พนักงาน work from home วันนี้คือวันแรก

 สถิติสูงสุด ไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,767 ราย บริษัทหลายแห่งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด แห่ให้พนักงาน work from home บางแห่งขยายเวลาต่อ​จากปีที่แล้วอย่างไม่มีกำหนด ลดความเสี่ยงติดเชื้อ-แพร่เชื้อโควิด-19   และ วันนี้คือวันแรก สำหรับ  "Work From Home" หรือที่หลายคนย่อว่า "WFH" ความหมายตรงๆ คือ “การทำงานที่บ้าน” 

News Update -  19 เมษายน 2564 วันนี้ (19 เมษายน 2564) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 ว่า

ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,767 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังในโรงพยาบาล 1,477 ราย คัดกรองเชิงรุก 288 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 2 ราย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย

การติดเชื้อระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 ติดเชื้อ 13,488 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 13,569 ราย และเสียชีวิตสะสม 7 ราย

ทั้งนี้ การระบาดส่วนใหญ่อยู่ที่เชียงใหม่ นครสวรรค์ นครราชสีมา กทม. ปริมณฑล ชลบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ส่วนจังหวัดอื่นติดเชื้อในวงจำกัด ถ้าทุกคนร่วมมือกันจะควบคุมสถานการณ์ได้ คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะค่อยๆ ลดลง

"การระบาดระลอกนี้เกิดจากสถานบันเทิง นักเที่ยวนำไปติดครอบครัว ที่ทำงาน และชุมชน เช่น กรณีโรงเรียนเอกชน จ.สมุทรปราการ ครูไปนำเชื้อติดเพื่อนร่วมงาน นักเรียน และกระจายไปยังครอบครัว

รวม 32 ราย ที่เป็นห่วงคือเด็กติดเชื้อไม่ค่อยมีอาการ อาจแพร่เชื้อไปสู่ผู้สูงอายุในครอบครัวเดียวกันได้ อาจทำให้มีอาการรุนแรงและเสียชีวิต จึงต้องสั่งปิดสถานศึกษาในช่วงนี้" นายแพทย์โอภาสกล่าว

ล่าสุด เว็บไซต์ medhubnews.com ข่าวสังคม สุขภาพ ท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook ทวิตเตอร์ @medhub_news รายงานว่า สถานการณ์ยังพบผู้ป่วยเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แต่แนวโน้มเริ่มชะลอตัว

ผู้ป่วยอาการรุนแรงและเสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้น จากการมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก เริ่มมีการระบาดไปยังหน่วยงาน องค์กร สถานประกอบการ

จึงต้องร่วมกันช่วยลดผู้ติดเชื้อโดยใช้มาตรการส่วนบุคคล หลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น มีมาตรการองค์กร โดยเฉพาะการทำงานที่บ้าน (Work From Home)

“ผู้ติดเชื้อของประเทศไทยในรอบใหม่นี้  กระจายตัวไปทั่วประเทศและพบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนขึ้นบ้างบางจังหวัด ส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับสถานบันเทิง

มีผู้ติดเชื้อที่เป็นนักท่องเที่ยวสูงกว่าร้อยละ 50 ส่งผลให้เกิดการแพร่เชื้อในผู้สัมผัสตามมา กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ออกมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคในวงกว้าง”

โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ และ ช่วงหลังสงกรานต์ สองสัปดาห์  ให้แต่ละจังหวัดตรวจ คัดกรอง ค้นหา ผู้ติดเชื้อ เพื่อจำกัดวงและลดการแพร่ระบาด เฝ้าระวัง สอบสวน ควบคุมการระบาด

การ แยก/กัก/สังเกต ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำ โดยผู้ติดเชื้อ1 คน มีโอกาสทำให้เกิดผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้ประมาณ 5 คน มีอัตราการติดเชื้อที่ประมาณร้อยละ 5-7 

มาตรการสำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้ทำการกักตัวเองเป็นเวลา 14 วันอย่างเคร่งครัด ตรวจหาเชื้อจำนวน 2 ครั้ง (ครั้งแรกเมื่อทราบว่าเป็นผู้สัมผัส เมื่อผลเป็นลบให้ตรวจครั้งที่ 2 ใน 7 วันต่อมา)

 สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และสังเกตอาการของตนเอง หากป่วยให้ประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้รับรักษาตามระบบ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำให้สังเกตอาการตนเอง หลีกเลี่ยงคนหมู่มาก สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หากป่วยให้พบแพทย์ ห้ามไม่ให้เดินทางข้ามจังหวัด

นายแพทย์โอภาส กล่วงต่อว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกคำสั่งให้หน่วยงานราชการทุกแห่งจัดรูปแบบการทำงานที่บ้าน “Work from Home” อย่างเต็มรูปแบบช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์

และกระทรวงสาธารณสุขขอความร่วมมือหน่วยงานภาคเอกชนร่วมมือกับภาครัฐ จัดรูปแบบการทำงานดังกล่าว อย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยในเฉพาะในจังหวัดเสี่ยง เพื่อช่วยลดและควบคุมการแพร่เชื้อโควิด 19 

ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้คาดการณ์ไว้ว่า หากดำเนินการมาตรการปิดสถานเสี่ยง ร่วมกับลดกิจกรรมรวมตัว มีมาตรการองค์กร ล็อคดาวน์เฉพาะจุด และประชาชนทุกคนร่วมมือกันเข้มพฤติกรรมส่วนบุคคล จะทำให้มีผู้ติดเชื้อต่อวันต่ำกว่า 100 คน ในระยะ 1 เดือนข้างหน้า

กระทรวงสาธารณสุขได้ทำการสำรวจ ยาและเวชภัณฑ์คงคลังทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับรับมือหากเกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง

ได้แก่ หน้ากาก N95 มีจำนวน 3,188,721 ชิ้น เพียงพอสำหรับ 1 ปี หน้ากากอนามัยทางการแพทย์จำนวน 121,360,699 ชิ้น เพียงพอสำหรับ 9 เดือน  และชุดป้องกัน Cover All เพียงพอสำหรับ 5 เดือน 

ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์ คงเหลือ 575,783 เม็ด เพียงพอสำหรับ 5-6 เดือน นอกจากนี้ องค์การเภสัชกรรมได้สั่งซื้อเพิ่มอีก 500,000 เม็ด เพื่อให้พียงพอต่อสถานการณ์

19 เมษายน 2564

ผู้ชม 834 ครั้ง

Engine by shopup.com