กรมการขนส่งทางบก พบผู้ป่วย โควิด 19 เดินทางด้วย รถโดยสารสาธารณะ ล่าสุด ยกระดับเข้มคัดกรอง ในรถทัวร์ รถตู้ รถโดยสารสาธารณะ บขส.ทั่วประเทศ
กรมการขนส่งทางบก พบผู้ป่วย โควิด 19 เดินทางด้วย รถโดยสารสาธารณะ ล่าสุด ยกระดับเข้มคัดกรอง ในรถทัวร์ รถตู้ รถโดยสารสาธารณะ บขส.ทั่วประเทศ
กรมการขนส่งทางบก พบผู้ป่วย โควิด 19 เดินทางด้วย รถโดยสารสาธารณะ ล่าสุด ยกระดับเข้มคัดกรอง ในรถทัวร์ รถตู้ รถโดยสารสาธารณะ บขส.ทั่วประเทศ
News Update - วันที่ 2 พฤษภาคม 2564 : หลังจาก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ขสมก.แจ้งว่าพบพนักงานติดเชื้อ โควิด-19 เพิ่ม 9 คน มีทั้งพนักงานขับรถ และ พนักงานเก็บค่าโดยสาร ทั้ง รถเมล์ธรรมดา และ รถปรับอากาศ
อีกทั้ง ใช้บริการรถเมล์ของ ขสมก. อย่างแออัด ล่าสุด พบว่า ผู้ป่วย โควิด 19 วันนี้ บางรายมีประวัติการเดินทางด้วย รถโดยสารสาธารณะ ( โควิดวันนี้ 2 พค 64 : พบผู้ติดเชื้อโควิด รายใหม่ 1,940 ราย และ เสียชีวิต 21 ราย )
เว็บไซต์ medhubnews.com ข่าวสังคม สุขภาพ ท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook ทวิตเตอร์ @medhub_news รายงานว่า นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ระบุว่า จากกรณีที่มีการตรวจพบ ผู้ป่วย โควิด 19 ล่าสุด ในพื้นที่ต่างๆ
บางรายมีประวัติการเดินทางด้วย รถโดยสารสาธารณะ โควิดวันนี้ไทย ไทม์ไลน์ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดคมนาคมที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการในการเดินทาง และประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารและประชาชนทราบถึงแนวทางที่ชัดเจน
โดย กรมการขนส่งทางบก ได้ยกระดับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด โควิด 19 ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันขั้นสูง
ทั้งการให้บริการประชาชนที่มาติดต่อราชการที่สำนักงาน และกำกับให้ผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท
ต้องปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด โควิด 19 อย่างเคร่งครัด โดยปัจจุบัน กรมการขนส่งทางบก มีมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของ โควิด 19 ดังนี้
การเดินทางด้วย รถโดยสารสาธารณะ ขอให้ผู้ประกอบการขนส่งดำเนินการอย่างเคร่งครัด ดังนี้
1.ยกระดับมาตรการคัดกรองผู้โดยสารและตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจคัดกรองพนักงานขับรถและผู้ให้บริการ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เข้มงวดการตรวจคัดกรอง เพิ่มเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ดูแล
โดยให้จัดทำสมุดตรวจอุณหภูมิก่อนและหลังการปฏิบัติงานหรือการให้บริการอย่างเข้มงวดสูงสุด หากพบผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส สามารถปฏิเสธการให้บริการและดำเนินการตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขทันที
2.จัดจุดลงทะเบียนเช็กอิน-เช็กเอาท์ “ไทยชนะ” ก่อนเข้าสถานีขนส่งผู้โดยสาร และก่อนขึ้นรถโดยสารสาธารณะ
3.เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสภายในรถ ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร เช่น ราวจับบริเวณประตูรถ หรือบันได ที่นั่ง ช่องจำหน่ายตั๋ว บันไดเลื่อน ปุ่มกดลิฟต์ และห้องสุขา
โดยให้ทำความสะอาดทุกชั่วโมงเป็นอย่างน้อย และจัดให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสำหรับผู้โดยสารล้างมือก่อนขึ้นรถ
และจุดบริการภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร และเพิ่มมาตรการฉีดพ่นยากระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร
4.กรณีการซื้อตั๋วโดยสารที่สถานีขนส่งต้องจัดระบบคิวให้เป็นไปตาม มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ ควรมีช่องทางการจำหน่ายตั๋วโดยสารล่วงหน้าผ่านทางโทรศัพท์ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อลดความเสี่ยงในการติดต่อสัมผัส
5.ขณะเดินทางให้มีการระบายอากาศภายในรถโดยสารปรับอากาศ ทุก 2 ชั่งโมง งดการให้บริการอาหารบนรถในระหว่างการเดินทาง รวมทั้งห้ามผู้โดยสารรับประทานอาหารบนรถ
6.กำกับดูแลให้ผู้โดยสาร พนักงานขับรถ ผู้ให้บริการ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง โดยต้องไม่ยินยอมให้ผู้โดยสารที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าขึ้นรถโดยสารเด็ดขาด
7.เผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 ให้ผู้โดยสารทราบที่สถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่ง
และสื่อของกรมการขนส่งทางบรวมทั้งกำกับควบคุมให้ปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค อย่างเคร่งครัด
ขอความร่วมมือผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A โดยจะต้องเข้ารับการตรวจคัดกรองตามขั้นตอนของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
ทั้งในส่วนของการสวมใส่ หน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า ตลอดเวลา และหากวัดอุณหภูมิผู้โดยสารได้สูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส หรือมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ
กรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการแจ้งสาธารณสุขในพื้นที่ทันที สำหรับผู้ป่วยยืนยันหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูงต้องงดการเดินทาง หากฝ่าฝืนอาจได้รับโทษตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558
การให้บริการที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด บริหารจัดการจำนวนประชาชนผู้มารับบริการ
โดยให้จองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เท่านั้น จัดที่นั่งคอย มีการเว้นระยะห่างระหว่างคนอย่างน้อย 1 เมตร เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดสถานที่
สิ่งอำนวยความสะดวก และในพื้นที่หรือบริเวณที่เป็นจุดสัมผัส พื้นที่ส่วนกลางที่มีการใช้งานร่วมกัน โดยขอให้ประชาชนที่มาติดต่อราชการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา
และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เพื่อให้การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โควิด เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
02 พฤษภาคม 2564
ผู้ชม 1390 ครั้ง