ทำความรู้จักกับ Morning Page มอร์นิ่งเพจ สุดยอด เทรนด์ใหม่ ตัวช่วยกระตุ้นไอเดีย เสริมพลังให้กับการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ
ทำความรู้จักกับ Morning Page มอร์นิ่งเพจ สุดยอด เทรนด์ใหม่ ตัวช่วยกระตุ้นไอเดีย เสริมพลังให้กับการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ
ทำความรู้จักกับ Morning Page สุดยอด เทรนด์ใหม่ ตัวช่วยกระตุ้นไอเดีย เสริมพลังให้กับการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ
News Update - วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน 2564 เชื่อเลยว่าทุกคนอยากจะทำงานและทำธุรกิจให้ออกมาดีกันอย่างแน่นอน ซึ่งพลังขับเคลื่อนสำคัญของสิ่งเหล่านี้ก็คือ ไอเดีย นั่นเอง
แต่จะทำอย่างไรเมื่อในบางครั้งไอเดียของคุณก็ไม่ยอมออกมาตามเวลาที่ wwluck ต้องการ วันนี้เราเลยขออาสานำเสนอกระบวนการในการขัดเกลาไอเดียอย่างต่อเนื่องมาฝากคุณกัน
บอกได้เลยว่าถ้าคุณทำแบบนี้เป็นประจำไม่ว่างานไหนหรือเรื่องอะไรคุณจะสามารถผ่านไปแบบสบาย ๆ กันอย่างแน่นอน มาเริ่มทำความรู้จักกับการเขียน Morning Page ไปพร้อมกันเลยดีกว่า
Morning Page คือ อะไร ?
ล่าสุด เว็บไซต์ medhubnews.com ข่าวสังคม สุขภาพ ท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook ทวิตเตอร์ @medhub_news รายงานว่า มอร์นิ่งเพจ morning pages คือ Morning Pages เป็นกระแสที่ผู้คนจะเขียน สิ่งต่างๆ เป็นอย่างแรกของวัน
ก่อนการแปรงฟันทานอาหารเช้า คือลืมตาตื่นปุ๊บ ก็คว้ากระดาษปากกาแล้วลงมือเขียนจนกว่าจะได้ประมาณ 750 คำ
แนวคิดสำคัญของการเขียนหลังตื่นนอนมาจากความคิดที่ว่า หลังจากที่เราเพิ่งตื่นนอนสมองของเรายังไม่ตื่นเต็มที่พอที่จะเซ็นเซอร์ตัวเอง การเขียนหลังตื่นทันทีจึงเป็นการเขียนอย่างอิสระมากกว่าการเขียนในช่วงเวลาอื่นๆ
คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาเมื่อมีคนพูดถึง Morning Page จริง ๆ แล้วนี่คือการนำเรื่องธรรมดาอย่างการเขียนเข้ามาเป็นตัวช่วยแก้ไขและเสริมพลังให้กับการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ
morning pages example
ขั้นตอนของการทำ Morning Page นั้นแสนจะง่ายดาย เริ่มจากสมุด 1 เล่ม ปากกา 1 แท่ง ตื่นขึ้นมาแล้วหยิบสองอย่างนี้มาไว้ในมือจากนั้นก็ทำการเขียนลงไป เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการของการทำกิจกรรมนี้แล้ว
คำถามต่อมาคือคุณจะต้องเขียนอะไรลงไปใน Morning Page ซึ่งคำตอบก็คือ คุณจะเขียนอะไรลงไปก็ได้
มีข้อแนะนำไว้ คุณควรเขียนมันไม่ควรยาวเกิน 3 หน้ากระดาษ เพราะถ้าเขียนเยอะจนเกินไปมันอาจทำให้วันนั้นทั้งวันของคุณมีเรื่องให้ทำเยอะไปหมด
แต่เชื่อว่าหลายคนเมื่อพึ่งจะเริ่มต้นกิจกรรมนี้ใหม่ ๆ อาจยังไม่รู้จะเขียนอะไรลงไปดีเรามีไกด์ไลน์มาแนะนำคุณเล็กน้อยถึงเรื่องราวที่มักจะเขียนลงในกิจกรรมนี้
เช่น ความคิดในปัจจุบัน สรุปเหตุการณ์ สิ่งที่ต้องทำ ความกังวลใจต่าง ๆ ความฝันที่อยากทำหรือเป้าหมายต่าง ๆ ในชีวิต วิธีทำเป้าหมายให้สำเร็จ หรืออยากจะขอโทษรวมทั้งขอบคุณสิ่งที่คุณคิดถึงก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
เขียน Morning Page แล้วจะดีกับคุณอย่างไร?
กิจกรรมนี้เป็นเหมือนการได้กลับมาคุยกับตัวเองและเหมือนได้พูดกับคนที่เข้าใจคุณดีที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าคือตัวของคุณเองนั่นเอง
ภาพรวมของการทำ Morning Page จะช่วยให้คุณนั้นสัมผัสกับความรู้สึกต่าง ๆ ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้จะเริ่มนำทางคุณไปสู่ไอเดียในการทำสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้นไปด้วย
และที่น่าสนใจมากที่สุดคือคุณจะได้รับความรู้สึกโล่ง ปลอดโปร่ง สบายใจ เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้เมื่อสมองและร่างกายของคุณเริ่มชินกับการปลดปล่อยเหล่าไอเดียในการทำงาน กระบวนการคิดไตร่ตรอง สมาธิ ของคุณจะมีระดับที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ
แน่นอนว่ามันจะส่งผลมาถึงการทำงานของคุณได้อย่างแน่นอน ในทางวิทยาศาสตร์กิจกรรมนี้มีส่วนช่วยในการกระตุ้นสมองซีกซ้ายซึ่งเป็นโซนของจินตนาการนั่นเอง
จัดได้ว่า Morning Page เป็นเทรนด์
ตอนนี้เป็นช่วงที่หลายคนเดินทางมาถึงช่วงที่แบกรับอะไรไว้ภายในความคิดมากจนเกินกว่าจะรู้ตัวได้ ซึ่งส่งผลเสียกับทั้งร่างกายรวมทั้งจิตใจคุณได้
การนำเทคนิคนี้เข้ามาใช้มีส่วนสำคัญในการช่วยระบายความหนักอึ้งเหล่านั้นออกจากตัวคุณได้ ซึ่งเราขอนับให้เป็นเทรนด์ฮิตประจำปี 2021 ที่กำลังมีการบอกต่อกันอย่างแพร่หลายเพิ่มมากขึ้น โดยคนส่วนใหญ่ที่มีโอกาสได้ทำก็ให้เสียงตอบรับที่ดีกลับมาไม่น้อยเลยทีเดียว
นี่คือกระบวนการที่ทำให้สิ่งที่เป็นความคิดหรือนามธรรมปรากฏออกมาเป็นรูปธรรม และแน่นอนว่าคุณจะสามารถเห็นภาพอะไรชัดเจนขึ้นอย่างแน่นอน
เพราะแม้แต่ความคิดที่ซับซ้อนของคุณก็จะค่อย ๆ หลุดออกมาได้เรื่อย ๆ เมื่อคุณเปิดใจให้กับการเขียนรูปแบบนี้
จากการคำนวณสถิติของการเขียนจำนวน 3 หน้าจะอยู่ที่ประมาณ 750 คำ ซึ่งในตอนเช้าหลังจากตื่นนอนแล้วทำนอกจากจะทำให้คุณนั้นได้ระบายสิ่งต่าง ๆ ออกมาเหมือนกับการได้เข้าห้องน้ำแล้ว
ยังเป็นการปลุกให้คุณตื่นอย่างสมบูรณ์มากขึ้นอีกด้วย จะถือเป็นการวอร์มความคิดก่อนทำสิ่งต่าง ๆ ในแต่ละวันก็ได้
ทำไมต้องเขียนหลังจากตื่นนอน?
เวลาในช่วงหลังตื่นนอนทันทีนั้นต้องถือว่าระบบเซนเซอร์ในตัวคุณยังทำงานได้ไม่ 100% ดังนั้นการหลั่งไหลออกมาทางความคิดจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายและดีกว่าช่วงอื่น ๆ นั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตามกิจกรรมนี้ค่อนข้างอิสระ คุณสามารถที่จะเขียนก่อนนอนเพื่อปลดปล่อยแล้วทิ้งตัวลงนอนได้อย่างสบายใจได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ผู้ที่เริ่มต้นกระบวนการนี้อย่างเป็นทางการพวกเราต้องยกความดีให้กับเธอนั่นก็คือ Julia Cameron ซึ่งเธอเป็นนักเขียนที่ต้องการหาทางออกให้กับอาการที่เรียกกันว่า สมองตัน เธอนิยามว่านี่คือการเชื่อมต่อกับตัวเองได้อย่างลึกซึ้งมากที่สุดนั่นเอง
คุณจะถือว่านี่เป็นการออกกำลังกายสมองก็คงจะไม่ผิด โดยมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์อีกมากมายมาสนับสนุนกิจกรรมนี้
ทั้งในแง่ของจิตวิทยาในงานทดลองอย่าง Journal of Abnormal Psychology ในปี 1986 ที่ให้นักศึกษาที่ต้องเจอกับประสบการณ์เลวร้ายเขียนบันทึกประจำวันต่อเนื่อง
ผลทดสอบสุขภาพจิตในเวลาต่อมาปรากฏว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้น รวมทั้งด้านโครงสร้างสมองที่บอกเอาไว้อย่างชัดเจนเลยว่าตอนเช้านั้นสมองส่วนที่เรียกกันว่า Prefrontal Cortex ซึ่งเป็นส่วนความคิดสร้างสรรค์จะตื่นตัวมากที่สุดอีกด้วย
สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะถนัดในช่วงเช้า ระหว่างวัน หรือตอนกลางคืน การเขียนก็เป็นหนึ่งในเทคนิคที่ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อและพูดคุยกับตัวเองได้ดีที่สุดวิธีหนึ่ง
พร้อมทั้งยังเป็นการย้ำเตือนความทรงจำทวนไม่ให้หลงลืมสิ่งต่าง ๆ ไปอีกด้วย
07 มิถุนายน 2564
ผู้ชม 2745 ครั้ง