"หมอเจ้าของคลินิกเถื่อนลำปาง" ศัลยกรรมเสริมนมอเข้าข่าย “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา”
"หมอเจ้าของคลินิกเถื่อนลำปาง" ศัลยกรรมเสริมนมอเข้าข่าย “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา”
"หมอ และเจ้าของคลินิกเถื่อนลำปาง" ศัลยกรรมเสริมนม “สาวประเภทสอง”
ช็อกตายคาเตียง อาจเข้าข่าย “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา”
เว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com รายงานว่า จากกรณีข่าวฮือฮา เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 30 ต.ค. นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง และ ตำรวจ
ระบุถึงการเสียชีวิตของ นายจิรัชญา คำพูน หรือกี้ อายุ 22 ปี สาวประเภทสองที่เสียชีวิตจากการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมทรวงอก ที่คลินิกแห่งหนึ่งกลางเมืองลำปาง ถ.ลำปาง –แม่ทะ ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง
นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง ระบุว่า จากการชันสูตรของแพทย์นิติเวช รพ.ลำปาง ในเบื้องต้น พบว่าสาเหตุการเสียชีวิต เกิดจากภาวะสมองขาดอากาศ
จากลมรั่วในช่องทรวงอกด้านซ้าย ซึ่งอาจจะเกิดจากระหว่างดำเนินการ หรือภายหลังดำเนินการก็ได้ ซึ่งรายละเอียดที่ลงลึกมากกว่านี้ จะต้องสอบถามทางแพทย์นิติเวชผู้ทำการชันสูตร เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะต้องลงลึกในรายละเอียดอีกครั้ง
สำหรับคลินิกดังกล่าว มีผู้มาขอจดแจ้งตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ได้ยื่นขออนุญาตเมื่อต้นเดือน พ.ค.60 ที่ผ่านมา
จากการตรวจสอบพบว่ายังไม่ได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยตามมาตรฐานของกฎหมาย จึงไม่ได้ออกใบอนุญาตสถานพยาบาล
โดยสรุปคือ เป็นการเปิดคลินิกเถื่อนก็ว่าได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เข้าตรวจสอบที่คลินิกดังกล่าว แต่พบว่าปิดทำการ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจะเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่าคลินิกแห่งนี้ยังไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ต่อไป
พ.ต.อ.จิตตพล วงษ์วัน ผกก.สภ.เขลางค์นคร กล่าวว่า ทางเจ้าของคลินิกและผู้ปกครองของผู้เสียชีวิตได้มาลงบันทึกไว้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. ว่าจะชดใช้ค่าเสียหายตามกฎหมาย
หลังรับแจ้งจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในทุกข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น ทั้งในเรื่องของการไม่ได้รับอนุญาตตั้งสถานประกอบการ รวมถึงข้อกล่าวหาอื่นๆที่อยู่ระหว่างการสอบสวน
ส่วน ข้อกล่าวหาที่จะแจ้งต่อสถานประกอบการ ถ้าหากเจ้าของคลินิกไม่ได้รับอนุญาต ถึงแม้ว่าผู้มาทำการเสริมทรวงอกจะเซ็นยินยอมเป็นหนังสือก็ตาม ก็ถือว่าผู้กระทำการ ทำโดยไม่มีอำนาจ
กรณีเช่นนี้ถ้าความตายเป็นผลโดยตรงจากการทำศัลยกรรมโดยไม่มีอำนาจ อาจเข้าข่ายข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา
ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะต้องรวบรวมพยานและหลักฐานก่อน และสอบสวนล้วงลึกไปในหลายประเด็น รวมถึงผลการชันสูตรของทางแพทย์นิติเวช ว่ากระทำการโดยเจตนาหรือไม่ แต่เชื่อว่าไม่มีอำนาจกระทำ แล้วกระทำการไปให้ผู้อื่นเสียชีวิตนั้นมีผลโดยตรง หากผลออกมาว่าข้อหาเจตนา โทษสูงสุดคือประหารชีวิต
หากข้อหาไม่เจตนา โทษสูงสุดคือจำคุก 15 ปี และอีกข้อหาคือกระทำการโดยประมาท โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ซึ่งความผิดจะอยู่ใน 3 ข้อหานี้ อยู่ที่พยานหลักฐาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการให้เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้ออกมาเน้นย้ำ และให้ข้อมูลตลอด รวมทั้งกรณีประเด็นการเซ็นยินยอมให้ศัลยกรรมได้ โดยคนไข้ไม่สามารถฟ้องร้องเอาผิดกับหมอต่อเหตุการณ์ไม่พึ่งประสงค์
ซึ่งคนไข้อย่าหวั่นกลัว เพราะคลินิกปัจจุบันมักจะให้เซ็นเอกสารก่อนเพื่อปกป้องตนเอง แต่ในความจริงแล้ว ไม่สามารถนำมาอ้างอิงเป็นหลักฐานทางคดีได้
ขณะที่ พญ.ประนอม คำเที่ยง อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจทางราชการที่ประเทศไต้หวัน โดยในส่วนของผู้บริหารส่วนกลาง ทางกองบรรณาธิการข่าว เว็บไซต์สุขภาพ medhubnews.com จะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
ภาพ Cr.ข่าวสด ,ทุบโต๊ะข่าว
เว็บไซต์ข่าวสุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ วาไรตี้ ฯลฯ
Thailand Health and Wellness News
ติดตามข่าวสารจาก medhubnews.com ได้จาก Facebook : sasook ของเรา
31 พฤษภาคม 2561
ผู้ชม 2656 ครั้ง